Wednesday, August 29, 2012

แอบดู!! ผู้สมัครนายสิบตำรวจหญิง ทดสอบวิ่ง800เมตร ก่อนจะเป็น"กองร้อยน้ำหวาน"...









ที่ รัชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.ศูนย์ฝึกอบรม บช.น. เป็นประธานทดสอบสมรรถภาพของผู้สมัครเป็นนักเรียนนายสิบ ตำรวจหญิง สังกัด บช.น. ฝ่ายป้องกันปราบปราม จำนวน 150 นาย โดยมีผู้ผ่านสอบข้อเขียนมาแล้วจำนวน 195 คน มาทดสอบสมรรถภาพร่างกายวิ่งระยะ 800 เมตร ในระยะเวลา 5 นาที มีผู้ไม่ผ่านการทดสอบจำนวน 3 คน หลังจากที่ผู็สมัครทั้งหมดผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกายด้วยการว่ายน้ำ ระยะ 25 เมตร ภายใน 50 วินาที ที่สระว่ายน้ำจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เสร็จไปเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บช.น. เตรียมแพทย์ และรถฉุกเฉินไว้พร้อมหากเกิดผู้สมัครรายใดมีอาการไม่ดีไว้พร้อม โดยส่วนใหญ่ที่วิ่งเข้าเส้นตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนดได้ไว้แต่ก็มีอาการเหนื่อย บางรายหมดแรง บรรดาตำรวจพี่เลี้ยงต้องเข้าให้การช่วยเหลือดมแอมโนเนียและบีบนวด
สำหรับผู้ผ่านการทดสอบทั้งหมดจะต้องผ่านการตรวจร่างกายว่าไม่เป็นบุคคลต้องห้ามถึงจะผ่านเข้าเป็นข้าราชการตำรวจหญิง ฝ่ายป้องกันปราบปราม ประจำกองร้อยควบคุมฝูงชน (กองร้อยน้ำหวาน) ต่อไป

Tuesday, August 28, 2012

หนี้รัฐพุ่งอีก1.23แสนล้านบาท



หนี้สาธารณะบานหนัก พบสิ้นเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นสุทธิ 1.23 แสนล้านบาท เหตุรัฐ และ รัฐวิสาหกิจ กู้หนักมือ

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2555 มีจำนวน 4.79 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 43.34% ของจีดีพี เป็นหนี้ของรัฐบาล 3.5 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.02 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 2.46 แสนล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 1 หมื่นล้านบาท

เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 1.23 แสนล้านบาท โดยหนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 7.61 หมื่นล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) เพิ่มขึ้น 5.12 หมื่นล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ เพิ่มขึ้น 1,180 ล้านบาท ขณะที่หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินลดลง 5,147 ล้านบาท

Monday, August 27, 2012

ค้นชีวิตนายอำเภอท่าปลา ข้าราชการคนดีของแผ่นดิน





ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการคนค้นฅน โพสต์โดย คุณ CutelyBearEntTV1 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

ช่วงหลังมานี้ เราอาจจะได้ยินข่าวเชิงลบที่เกิดขึ้นกับแวดวงข้าราชการของเมืองไทย แต่สำหรับ "นายประสงค์ อุไรวรณ์" นายอำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ คนนี้ เขาคือข้าราชการคนหนึ่งที่จะทำให้ทุกคนได้รับรู้ว่า "ข้าราชการดี ยังมีอยู่จริง" ซึ่งเรื่องราวชีวิตของเขาถูกตีแผ่ไว้อย่างน่าสนใจในรายการคนค้นฅน เมื่อวันเสาร์ที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา...

ตลอด 24 ชั่วโมงของนายอำเภอประสงค์ อุไรวรณ์ คือเวลาราชการที่เขาต้องปฏิบัติหน้าที่ "ข้าของแผ่นดิน" ถึงแม้ว่า นายอำเภอประสงค์ จะย้ายมาประจำอยู่ที่อำเภอท่าปลาได้ไม่ถึงปีดี แต่นายอำเภอคนนี้ก็บุกไปแล้วแทบจะทั่วทุกพื้นที่ที่รับผิดชอบ
งานของนายอำเภอประสงค์เริ่มตั้งแต่เช้า แต่ไม่ใช่มานั่งโต๊ะเฉย ๆ หากแต่ทุกวันเขาต้องลงพื้นที่ไปคลุกคลีกับชาวบ้าน เพื่อติดตามปัญหา เรื่องร้องเรียน ช่วยชาวบ้านทำฝาย ให้ความคิด ความรู้ในด้านต่าง ๆ รวมทั้งเข้าไปให้ความช่วยเหลือครอบครัวยากจน เป็นการทำงานที่สมกับคำกล่าวว่า "บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชน" อย่างแท้จริง

หลังจากงานในพื้นที่เสร็จสิ้น ก็เป็นเวลาดึกดื่นมืดค่ำแล้วที่นายอำเภอจะได้กลับออกมา แต่ถึงจะดึกแค่ไหน นายอำเภอประสงค์ก็จะต้องแวะไปที่ห้องทำงานทุกครั้ง เพื่อสะสางงานต่าง ๆ แม้จะมีแฟ้มงานกองอยู่ตรงหน้านับสิบ แต่เขาก็ต้องอ่านจนหมดไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ก่อนจะเดินทางกลับบ้านในช่วงดึก และเป็นเช่นนี้ทุกวัน

"นายอำเภอที่ดี ต้องยึดประชาชนเป็นที่ตั้งในการที่จะดูแลทุกข์สุขของประชาชน เป็นแบบอย่างที่ดีให้เขานำไปใช้ นำไปปฏิบัติได้" นายอำเภอท่าปลา กล่าว พร้อมกับยืนยันว่า ตัวเขาเองไม่เคยไปยุ่งเกี่ยว หรือล้วงลูกในเรื่องงบประมาณ และจะไม่รับสิ่งที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหยิบยื่นมาให้อย่างเด็ดขาด



หากใครได้รู้จักนายอำเภอประสงค์จะรู้ดีว่า เขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างสมถะ และเรียบง่ายเป็นอย่างมาก อย่างเช่นในห้องทำงานของเขาแทบจะไม่เคยเปิดเครื่องปรับอากาศเลย ส่วนไฟก็เปิดเพียงดวงเดียวเท่านั้น ซึ่งเขาบอกว่า นี่เป็นบุญคุณของมารดาที่เป็นผู้ปลูกฝังเขาให้รู้จักประหยัด ขณะที่บ้านพักของเขาก็เป็นบ้านหลังไม่ใหญ่นัก มีเพียงโต๊ะทำงานเก่า ๆ ข้าวของเครื่องใช้จำนวนหนึ่งวางอยู่ ไร้ซึ่งตู้โชว์ ของประดับตกแต่งบ้าน อย่างที่ในบ้านของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคนมีกัน หรือแม้แต่พัดลมก็ยังไม่มี

เมื่อถามว่า ในอำเภอท่าปลาแห่งนี้ มีปัญหาอะไรที่นายอำเภอเห็นอยู่บ้าง นายอำเภอประสงค์ บอกว่า เขาเป็นคนจังหวัดอุตรดิตถ์จึงทราบปัญหาของที่นี่ดี โดยตั้งแต่ในอดีต คนท่าปลามีปัญหาเรื่องสุขภาพ ขาดธาตุไอโอดีน ทำให้มีผู้ป่วยโรคคอพอกสูงมากจังหวัดหนึ่งในประเทศ และยังมีเรื่องการอพยพโยกย้ายถิ่นจากการสร้างเขื่อน ทำให้เกิดปัญหาที่ดินทำกินตามมา ซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมานานแล้ว แต่จนถึงบัดนี้ชาวบ้านก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม



นอกจากนั้น นายอำเภอก็เห็นว่า ชาวบ้านยังมีปัญหาเรื่องการทำเกษตรกรรม เพราะพื้นที่ใหม่ที่ย้ายมาอยู่กันนั้น เป็นที่เนินสูง ไม่มีน้ำ ทำการเกษตรไม่ได้ผลดี เขาจึงใช้แนวพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านให้ทำมาหาเลี้ยงชีวิตได้ รวมทั้งการบุกป่าฝ่าดงเข้าไปทำฝายให้ชาวบ้าน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ทำการเกษตร แม้ว่าจะต้องทำฝายท่ามกลางฝนที่ตกกระหน่ำ แต่นายอำเภอก็ไม่ยอมวางมือจากงานที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ชาวบ้านที่มาช่วยทำฝายด้วยกันตัดสินใจสู้เคียงข้างนายอำเภอที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จนสุดท้ายก็สำเร็จเป็นฝายเก็บน้ำดังที่ตั้งใจ

ทุกงานเพื่อมวลชนที่นายอำเภอทำนั้น เขาทำอย่างตั้งใจจริง ไม่ใช่ทำพอเป็นพิธี อย่างเช่นการปลูกป่า เราอาจจะเคยเห็นผู้ที่เดินทางมาเป็นประธานในพิธีออกมากล่าวเปิดงาน แล้วลงมือปลูก 1 ต้นพอเป็นพิธี ก่อนจะเดินทางกลับ แต่สำหรับนายอำเภอคนนี้ เขาจะกลับก็ต่อเมื่อต้นกล้านับพันนับหมื่นต้นที่นำมาเตรียมไว้ถูกปลูกลงบนผืนป่าทั้งหมดแล้ว



ความมุ่งมั่น และความทุ่มเทของนายอำเภอประสงค์ ทำให้ชาวบ้านประทับใจและรักนายอำเภอคนดีคนนี้เป็นอย่างมาก ผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนในอำเภอท่าปลาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยู่มา 60-70 ปี เพิ่งจะเคยเห็นนายอำเภอที่ลงมาคลุกคลีกับประชาชนมากขนาดนี้เป็นคนแรก แม้ว่านายอำเภอจะย้ายมาอยู่ไม่ถึงปี แต่ชาวบ้านแทบทุกหมู่บ้าน รู้จักนายอำเภอคนใหม่กันเกือบหมด

ขณะเดียวกัน ก็ยังมีชาวบ้านอีกกลุ่มที่ไม่ได้อพยพออกมาจากการสร้างเขื่อน แต่นายอำเภอก็ไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขาเหล่านั้น เขาได้นั่งเรือเข้าไปเยี่ยมเยียนชาวบ้านถึงหมู่บ้าน และนอนค้างเอาแรงบนเสื่อเก่า ๆ ผืนหนึ่งในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอย่างไม่ถือตัว ก่อนจะรีบตื่นขึ้นมาช่วยชาวบ้านทำนาตั้งแต่เช้าตรู่ โดยไม่ห่วงเรื่องข้าวปลาอาหาร ซึ่งเขาบอกว่า การทำเช่นนี้ เพื่อจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

หลายคนอาจจะมองว่า คนเป็นถึงนายอำเภอไม่จำเป็นต้องออกมาลงมือลงแรงในหลาย ๆ เรื่องด้วยตัวเองขนาดนี้ แต่สำหรับนายอำเภอประสงค์ เขากลับมองว่า เกียรติและศักดิ์ศรีของนายอำเภอ คือ การที่ประชาชนยอมรับในตัวเขา หาใช่ตำแหน่งในชุดสีกากีไม่



"ผมว่าเกียรติของการเป็นนายอำเภอ คือการที่ประชาชนยอมรับจากตัวเราจริง ๆ จากการที่ตัวเราเป็นตัวเรา ไม่ใช่อำนาจตามกฎหมาย ตามตำแหน่งหน้าที่ ก็เหมือนกับที่กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่านเคยกล่าวไว้ อำนาจไม่ได้อยู่ที่พระแสงศาสตรา แต่อยู่ที่ราษฎรยอมรับนับถือ ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ยั่งยืน และเป็นตัวตนที่แท้จริงของตำแหน่งนี้มากกว่า" นายอำเภอประสงค์ กล่าวในที่สุด

เพราะแนวคิด "ข้าราชการ คือ ข้ารับใช้ของประชาชน" ที่ทำมาตลอดชีวิตการสวมเครื่องแบบสีกากี จึงไม่น่าแปลกใจที่ข้าราชการของแผ่นดินไทย อย่าง "นายอำเภอประสงค์ อุไรวรณ์" จะได้รับรางวัลเกียรติยศจากโครงการ "มหาดไทย ดำรงธรรม ดำรงราชานุภาพ" ซึ่งเป็นรางวัลที่เชิดชูและเทิดทูนความดีที่เขาได้สร้างให้กับแผ่นดิน สมฐานะ "ข้าของแผ่นดิน" อย่างแท้จริง





Monday, August 20, 2012

ครม.ตั้งวัชรีนั่งปลัดพาณิชย์



ครม.ไฟเขียว ตั้ง วัชรี วิมุกตายน เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์แทน ยรรยง

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้ง นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์ แทน นายยรรยง พวงราช ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2555 นี้

พร้อมกันนี้ ยังมีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงอีก 6 ตำแหน่ง ดังนี้ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เป็น รองปลัดกระทรวงพาณิชย์, นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็น อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก, นางพิรมล เจริญเผ่า รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็น อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

นางปราณี ศิริพันธ์ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงพาณิชย์ เป็น อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ, น.ส.วิบูลลักษณ์ ร่วมรักษ์ ที่ปรึกษาการพาณิชย์ เป็น อธิบดีกรมการค้าภายใน และนายนพดล สระวาสี ที่ปรึกษาการพาณิชย์ เป็น รองปลัดกระทรวงพาณิชย์

Friday, August 17, 2012

ปชป.ท้าDSIชงคดีพ.อ.ร่มเกล้าขึ้นคดีพิเศษ





"วัชระ" ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ท้า "ดีเอสไอ" ชงคดี "พ.อ.ร่มเกล้า" ขึ้นคดีพิเศษ ซัด "ธาริต" รับใช้รัฐบาล-จ้องเช็คบิลกลับ
วันที่ 17 ส.ค.55 นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 แถลงถึงกรณีที่มีข่าวนายธาริต เพ็งดิษ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รับปาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก จะเคลียร์ข่าวการเรียกสอบมือปืนสไนเปอร์ช่วงเหตุชุมนุมการเมืองปี 2553 ว่า อยากเตือนให้พล.อ.ประยุทธ์ ว่าคำพูดของนายธาริต เชื่อถือไม่ได้ เพราะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เนื่องจากช่วงที่เข้าให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการงบประมาณ ซึ่งมีบันทึกการประชุมเป็นลายลักษณ์อักษรว่า นายธาริต กล่าวหาฝ่ายทหารเป็นผู้ที่นำผังล้มเจ้ามาให้ดีเอสไอ แต่กลับปฏิเสธในเวลาต่อมาว่าผังล้มเจ้าไม่มีจริง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นายธาริตเป็นผู้แถลงยืนยันว่ามีผังล้มเจ้า
นายวัชะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ขอร้องให้ดีเอสไอสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม์ และทหารชั้นผู้น้อยที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการถูกยิงในเหตุการณ์เดียวกัน เพราะวันนี้คดีก็ยังไม่คืบหน้า แต่ดีเอสไอกลับเลือกทำคดีเพียงด้านเดียว รวมถึงการรับคดีการทุจริตโครงการรับจำนำหอมแดงในจังหวัดศรีษะเกษ ที่กลุ่มเกษตรและข้าราชการก็ทนเห็นการทุจริตไม่ได้ ต้องมายื่นหนังสือร้องเรียนให้รับเรื่องนี้ให้เป็นคดีพิเศษด้วย หากดีเอสไอไม่กล้ารับแสดงว่ามีเบื้องหลังอะไรบางอย่าง ทั้งนี้ขอให้สังคมจับตาดูการทำงานขององค์กรนี้ ยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดมีบันทึกเป็นหลักฐานในรายงานการประชุมของกรรมาธิการงบประมาณเป็นเรื่องจริง

“ผมอยากถามนายธาริตว่าที่ไปพบร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีเพื่ออะไร แต่เชื่อว่าจะเป็นการทำตามคำสั่งของรต.อ.เฉลิมบอกมากกว่า ซึ่งมีเหตุผลในรายงานการประชุมของกรรมาธิการงบประมาณ นายธาริตยอมรับเองว่า ดีเอสไอเป็นเครื่องมือของรัฐบาลอย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการเพื่อที่จะเช็คบิลผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์อย่างชัดเจน เพราะมีการเสริมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 50 นายมาร่วมทำคดี จึงสอดรับว่า ดีเอสไอเป็นเครื่องมือของรัฐเต็มตัว จึงอยากให้มีการยุบดีเอสไอ เพราะผู้นำยังเป็นอธิบดีกรมจิ้งจกกลับคำพูดไปมา แทนที่จะเป็นข้าราชการของแผ่นดิน” นายวัชระกล่าว

Wednesday, August 15, 2012

คลังเปิดขายบอนด์ล็อตใหม่



คลังเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ล็อตใหม่8หมื่นลบ.อายุ6ปี ดอกเบี้ย3.99%กย.นี้

นางเสาวณีย์ กมลบุตร รองปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษปีงบประมาณ 55 วงเงินไม่เกิน 8 หมื่นล้านบาท อายุ 6 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.99% ต่อปี

วันนี้ได้ลงนามในบันทึกความตกลงว่าด้วยการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ดังกล่าวกับธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ (BBL), ธนาคารกรุงไทย (KTB), ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายพันธบัตรดักล่าว โดยจะเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 3-14 ก.ย.55 กำหนดวงเงินซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท

ทั้งนี้ ได้กำหนดเวลาการเปิดจำหน่ายไว้ 3 ช่วง คือช่วงแรกวันที่ 3-4 ก.ย.55 จะเปิดให้ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปมีสิทธิซื้อก่อนกำหนดวงเงินซื้อสูงสุดที่ 2 ล้านบาท ช่วงสองวันที่ 5-7 ก.ย.55 จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปและผู้สูงอายุซื้อจากวงเงินที่เหลือจากช่วงแรก ในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาทเช่นกัน และช่วงสาม คือ ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.55 เป็นต้นไป จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปและผู้สูงอายุซื้อจากวงเงินที่เหลือจากช่วงสอง โดยไม่มีการจำกัดวงเงินซื้อขั้นสูงสุด

อย่างไรก็ตาม การเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ในครั้งนี้ กระทรวงการคลังได้พัฒนาพันธบัตรออมทรัพย์ไปสู่ระบบไร้ใบตราสาร เพื่อพัฒนาสภาพคล่องและเพิ่มความสะดวกในการซื้อขายตราสารของรัฐบาลเพื่อรายย่อย

Thursday, August 9, 2012

จับตาโผโยก "ปลัด" ข้ามห้วย จับตา 7 ที่นั่ง





คั่นคิวร้อนๆ ศึกซักฟอกและข่าวปรับครม.ที่ทำท่าจะยื้อยาวออกไป ด้วยเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ

โดยเฉพาะเก้าอี้เบอร์ 1 ของกระทรวง ที่ขณะนี้มีข่าวแพร่สะพัดว่าอาจมีรายการย้ายข้ามห้วยให้เห็น ชนิดเร้าใจไม่แพ้โผครม.อย่างแน่นอน

แว่วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งลัดคิวแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการขึ้นมาก่อน ขีดเส้นให้จบภายในเดือนส.ค.นี้ จากนั้นค่อยไปว่ากันที่ฝ่ายการเมือง นั่นคือการปรับครม.

ต่อเวลา ′นักวิ่ง′ ไล่ล่าตั๋วที่นั่งในครม.กันต่อ

การเกษียณอายุราชการของข้าราชการนั้น เป็นไปตามบทบัญญัติในพ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ ที่ระบุว่าข้าราชการที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีงบประมาณใด ให้พ้นจากราชการในวันสิ้นปีงบประมาณนั้น

ซึ่งก็คือวันที่ 30 ก.ย.ของทุกปี โดยปีนี้เวลาทำงานวันสุดท้ายคือ ศุกร์ที่ 28 ก.ย.


สำหรับตำแหน่งปลัดกระทรวง (ซี 11) ที่จะเกษียณปีนี้ ประกอบด้วย 1.น.ส.สุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ, 2.นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงไอซีที, 3.นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์,

4.นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, 5.นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ 6.นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ขณะเดียวกันตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคมก็จะว่างเว้นอีก 1 ที่ด้วย หลังจาก นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ที่ก่อนหน้านี้ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

ได้ชิงลาออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. ก่อนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะมีมติชี้ขาดคดีร่ำรวยผิดปกติและการแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จเพียงไม่กี่วัน


จากนั้นก็มีการแต่งตั้ง นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ ขึ้นมาขัดตาทัพปลัดกระทรวง โดยนายศิลปชัยมีคิวเกษียณในเดือนก.ย.นี้


เท่ากับว่า ′เก้าอี้ปลัด′ จ่อคิวพิจารณาถึง 7 ที่นั่ง

ไม่นับรวม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ครม.มีมติไปตั้งแต่เดือนพ.ค. ไฟเขียวต่ออายุราชการอีก 1 ปี

นอกจากนี้ยังมีผู้อยู่ในตำแหน่งเทียบเท่าอยู่ 2 ราย คือ นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ


นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ที่ปรึกษานายกรัฐ มนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ระหว่างเปลี่ยนโหมดเข้าสู่ฤดูโยกย้ายข้าราชการประจำก็มีชื่อ ′บิ๊กเนม′ ร่วมวงชิงชัยเก้าอี้กระทรวงเกรดเอด้วย จนเป็นข่าวฮือฮาพักใหญ่


ไม่ว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภา ความมั่นคงแห่งชาติ และอดีตผบ.ตร. ที่กำลังเนื้อหอม มีชื่อลัดคิวข้ามห้วยขึ้นมาจ่อเต็ง 1 ปลัดกระทรวงคมนาคม

ข่าววงในแจ้งว่า เหตุที่ชื่อ ′บิ๊กน้อย′ มาแรงเพราะคนแดนไกลเป็นผู้ติดต่อทาบทามด้วยตัวเอง โดยขอให้มานั่งปลัดกระทรวงคมนาคมจนเกษียณในปี 2556

นัยว่าเพื่อคั่นคิว นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ดาวรุ่งพุ่งแรงที่กว่าจะเกษียณก็ปี 2558 โน่น

ผิดคอนเซ็ปต์ นายใหญ่ ที่ไม่ต้องการให้บิ๊กข้าราช การคนใดนั่งบริหารตำแหน่งสำคัญในระยะเวลาที่ยาว นานเกินไป ยกเว้นเครือญาติและคนไว้ใจ



หวยจึงมาออกที่อดีตผบ.ตร.คนนี้

ขณะที่ บิ๊กน้อย เองก็ไม่มีอะไรจะเสีย เพราะลึกๆ แล้วเล็งเป้าหมายที่ไกลกว่านั้น คือการได้เข้าไปเป็น1ใน 5 เสือ กกต. ซึ่ง กกต.ชุดปัจจุบันจะหมดวาระในปีหน้า

ช่วง 6-7 เดือนระหว่างการรอคอย ก็คั่นคิวนั่งปลัดกระทรวงคมนาคมไปพลางๆ ถือเป็นกำไรชีวิต

อย่างไรก็ตาม ข่าวอีกกระแสก็ออกมาในทำนองว่า บิ๊กน้อย อาจข้ามห้วยไปเป็นปลัดกระทรวงคลองหลอดก็ได้

ชื่อคนดังอีกคน คือ นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็มีข่าวทำนองว่ามีสิทธิ์กลับไปนั่งเก้าใหญ่สุดในกระทรวงเดิม

เนื่องจากขณะนี้ฝ่ายการเมืองไม่ค่อยปลื้มกับแคนดิเดตอาวุโสอันดับ 1 อย่าง นายประชา เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่มี นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงซึ่งกำลังจะเกษียณ เป็นป๋าดัน

ทำนองภาพติดอำมาตย์ ทำงานไม่ค่อยเข้าขา เลยอยากได้คนที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้ กลมกลืนแนบสนิทกับฝ่ายการเมือง

จึงปรากฏชื่อ ปลัดวิเชียร ซึ่งแม้ปูมหลังจะเป็นคนสนิท นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย แต่กลับได้ใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะเห็นว่าทำงานรับลูกฝ่ายการเมืองได้ทุกขั้ว

ถึงขนาดเปรยกับคนใกล้ชิดว่า ′กับปลัดคนนี้ คุยกันได้′



หรือแม้กระทั่ง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ ก็ยังการันตีฝีมือ เพราะติดใจบริการที่ประทับใจ

หากเป็นไปตามสูตรนี้ อาจสลับ นายประชา ข้ามห้วยไปนั่งปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯแทน

สำหรับกระทรวงไอซีที เป็นอีกแห่งที่ถูกจับตาว่าจะมีปลัดคนใหม่เหาะข้ามห้วยมา โดยชื่อที่มาแรงสุดคือ นายสุรชัย ศรีสารคาม ผู้ว่าฯนครนายก

ฝากฝีมือให้ จ.นครนายก ได้รับรางวัลนำร่องจังหวัดอัจฉริยะ (Smart Province) นำความรู้ด้าน ไอซีทีมาบริหารจัดการจังหวัดให้มีคุณภาพ

แต่ที่หนึบกว่านั้นคือมี ′เจ๊ดัน′ ที่ชื่อ คุณหญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เจ้าของสัมปทานกระทรวงตัวจริง

ถึงขนาดพาไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดูตัวที่ฮ่องกงมาแล้ว ระหว่างฉลองงานวันเกิดเมื่อปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

รายนี้ถ้าไม่สะดุดขาตัวเองเสียก่อน ชื่อก็นอนมาชัวร์ๆ



คิวตื่นเต้นเร้าใจหลักๆ ก็มีอยู่แค่ 3-4 กระทรวงนี้ กระทรวงอื่นๆ น่าจะเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายกันภายในไม่น่ามีอะไรหวือหวา

เช่น กระทรวงสาธารณสุข เป็นการชิงดำระหว่าง 2 แคนดิเดต คือ นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ พญ.วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมการแพทย์

โดยเฉพาะชื่อหลังจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด เพราะเป็นภรรยาของ นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.

ท่ามกลางฝุ่นตลบในหลายๆกระทรวงขณะนี้ ล่าสุดการประชุมครม. เมื่อวันที่ 7 ส.ค. มีมติแต่งตั้ง นายชวลิต ชูขจร รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ ขึ้นเป็นปลัดกระทรวง แทน น.ส.สุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป

อาจพลิกโผนิดๆ แต่พอคาดเดาได้ว่าแคนดิเดต อย่าง นายชลิต ดำรงศักดิ์ รองปลัดกระทรวง ไม่น่าจะถึงฝั่งฝัน เพราะเรื่องเก่าน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้วยังเคลียร์ไม่จบ

อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งครั้งนี้ถือว่ารัฐบาลได้นำร่องชูภาพสนับสนุนนักบริหารคนรุ่นใหม่ ทั้งที่นายชวลิตนั้นยังเหลืออายุราชการอีกถึง 5 ปี

คั่นคิวร้อนรายการ ′ข้ามห้วย′ ที่จะตามมาเร็วๆ นี้

Wednesday, August 8, 2012

ไต้ฝุ่นไห่ขุยถล่มจีนอพยพปชช.เกือบ 2 ล้าน





พายุไต้ฝุ่นไห่ขุย พัดถล่มจีน อพยพแล้วเกือบ 2 ล้านคน ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมเมืองหลวงของฟิลิปปินส์และปริมณฑลยังคงรุนแรงขึ้น




ไต้ฝุ่นไห่ขุย ได้พัดขึ้นฝั่งมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีนตั้งแต่เช้าวานนี้ ทำให้เกิดไฟฟ้าดับมีประชาชนได้รับผลกระทบเกือบ 400,000 หลังคาเรือน ทางการจีนได้ยกระดับเตือนภัยไต้ฝุ่นเป็นระดับสูงสุด พร้อมกับอพยพประชาชนที่มณฑลเจ้อเจียงและเซี่ยงไฮ้ รวมเกือบ 2 ล้านคน รวมถึงขอให้ประชาชนงดออกจากบ้าน เนื่องจากพายุอาจจะทำให้เกิดฝนตกหนัก และมีลมแรงต่อไปอีก 48 ชั่วโมง

ส่วนที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 500 เที่ยว รวมถึงยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดที่เมืองหางโจวและเมืองหนิงโปด้วย ขณะที่รถไฟใต้ดินต้องจำกัดความเร็วในการวิ่งเพื่อความปลอดภัย รวมถึงระงับบริการบางเส้นทาง ล่าสุดไต้ฝุ่นไห่ขุยได้อ่อนกำลังลง โดยมีความเร็วลม 137 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือสู่มณฑลอานหุย

ขณะที่ฟิลิปปินส์สถานการณ์น้ำท่วมกรุงมะนิลา ยังคงน่าเป็นห่วง โดยน้ำได้ท่วมพื้นที่ 60-80 เปอร์เซ็นต์ มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 1.2 ล้านคน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมาได้เพิ่มขึ้นเป็น 23 คน

ด้านสถานที่ราชการและธุรกิจต่างๆ ต้องปิดทำการเมื่อวานนี้เป็นวันที่สอง ขณะที่ทหาร ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนเกือบ 850,000 คนที่ต้องพลัดถิ่นที่อยู่ ส่วนศูนย์พักพิงชั่วคราวของทางการต้องรับผู้อพยพหนีน้ำท่วมแล้วเกือบ 395,000 คน และขณะนี้เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนน้ำและอาหาร นอกจากนี้ทางการฟิลิปปินส์ยังได้ประกาศให้พื้นที่ 4 จังหวัดใกล้กับกรุงมะนิลาเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว

Monday, August 6, 2012

นายกฯ ประชุมกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก ก่อนถวายเครื่องสักการะเนื่องในวันเข้าพรรษา



วันที่ 6 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานการปฏิบัติภารกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในวันนี้ว่า เวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก ประจำปี 2555 ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ จากนั้น เวลา 16.30 น. นายกรัฐมนตรี ถวายเครื่องสักการะแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2555 ณ ตึกวชิรญาณสามัคคีพยาบาร ชั้น 6 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ส่วนในเวลา 17.30 น. นายกรัฐมนตรี ถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษาประจำปี 2555 ณ ตำหนักสมเด็จ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร

Wednesday, August 1, 2012

ดวง เข้ารายงานตัวแล้ว แต่งชุดตำรวจเต็มยศ





"ร.ต.ท.ดวง" ลูกชาย "รองนายกฯเฉลิม" เข้ารายตัว หลังโอนย้ายจากทหารมาเป็นตำรวจ ประจำศูนย์ฝึกอบรม บช.น.

(1 ส.ค.) ว่าที่ ร.ต.ท.ดวง อยู่บำรุง บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อรายงานตัวในตำแหน่ง รองสารวัตรศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล หลังจากได้รับการโอนย้ายจากสังกัดทหารยศ ร.ท. ซึ่งมีผลในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ทั้งนี้ ว่าที่ ร.ต.ท.ดวง สวมใส่ชุดปกติแขนยาวกากี คอแบะ เดินทางเข้ารายงายตัว ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวต้อนรับ และแสดงความยินดีที่เข้ามาช่วยเหลืองานด้านการฝึกสอนตำรวจ ในการยิงปืนที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หลังจากนั้น ว่าที่ ร.ต.ท.ดวง ได้เดินทางเข้ารายงานตัวต่อรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลทุกท่าน พร้อมกับเดินทางเข้ารับการมอบงานในศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล